Symptoms of a woman that should not be ignored
Health News
18 Feb 2022
views
15 อาการของผู้หญิงที่ไม่ควรละเลย
ร่างกายของผู้หญิงมีการเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา แต่บางครั้งการเปลี่ยนแปลงที่ดูเหมือนปกตินั้นอาจเป็นสัญญาณของโรคมะเร็งได้
- เต้านมมีการเปลี่ยนแปลง ก้อนในเต้านมส่วนมากแล้วจะไม่ใช่มะเร็ง แต่หมอก็จะตรวจเช็คอยู่ดู และคุณก็ควรรู้จักการเปลี่ยนแปลงเหล่านี้ด้วย
- ผิวหนังเป็นรอยบุ๋ม หรือดึงรั้ง
- หัวนมบุ๋ม
- มีสารคัดหลั่งทางหัวนม
- เกิดรอยแดง หรือหัวนมเปลี่ยนขนาด หรือสีผิวของหน้าอกเปลี่ยนแปลง
- อาการบวม “ผู้หญิงมักจะมีอาการบวมเป็นปกติ รอดูอาการสัก 1-2 สัปดาห์เพื่อดูว่ามันจะหายไปหรือไม่” หากอาการไม่ดีขึ้น หรือมันเกิดขึ้นพร้อมกับน้ำหนักลดหรือมีเลือดออก ควรรีบไปพบแพทย์
- มีเลือดออกระหว่างมีประจำเดือน ถ้าคุณยังมีประจำเดือนอยู่ให้แจ้งแพทย์ให้ทราบว่าคุณพบเลือดออกมาในระหว่างมีรอบเดือน การมีเลือดออกโดยไม่เกี่ยวข้องกับประจำเดือน อาจมีหลายสาเหตุ ซึ่งอาการนี้แพทย์จะตรวจวินิจฉัยว่าคุณเป็นมะเร็งมดลูก (หรือมะเร็งในเยื่อบุโพรงมดลูก) หรือไม่
- ผิวหนังเปลี่ยนแปลง การเปลี่ยนแปลงทั้งในเรื่องของขนาด, รูปทรง, และสีสันของขี้แมลงวัน หรือจุดต่าง ๆ เป็นสัญญาณของโรคมะเร็งผิวหนังได้ ควรรีบเข้าพบแพทย์เพื่อตรวจและทดสอบอย่างละเอียด บางครั้งอาจต้องมีการตรวจชิ้นเนื้อด้วย
- มีเลือดออกมาปะปนกับปัสสาวะหรืออุจจาระ ควรบอกแพทย์ของคุณหากมีเลือดไหลออกจากร่างกายในส่วนที่มันไม่ควรมี โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากมีอาการมาแล้วมากกว่า 1 หรือ 2 วันอุจจาระปนเลือดออกมาบ่อยครั้งบ่งชี้ว่าเป็นอาการของโรคริดสีดวงทวาร แต่ก็อาจเป็นอาการของมะเร็งลำไส้ใหญ่ได้ด้วย ส่วนปัสสาวะปนเลือดบ่อยครั้งเป็นสัญญาณแรกเริ่มของมะเร็งกระเพาะปัสสาวะ หรือมะเร็งที่ไต
- การเปลี่ยนแปลงของต่อมน้ำเหลือง ต่อมน้ำเหลืองมีขนาดเล็ก ขนาดประมาณเม็ดถั่วกระจายอยู่ทั่วร่างกาย การเปลี่ยนแปลงส่วนใหญ่มักเกิดจากการติดเชื้อ แต่โรคมะเร็งบางชนิด อย่างเช่น มะเร็งเม็ดเลือดขาวและมะเร็งต่อมน้ำเหลือง ก็อาจทำให้ต่อมน้ำเหลืองบวมได้เช่นกัน
- ปัญหาการกลืน อาการกลืนลำบากในบางครั้งก็ไม่ใช่เรื่องน่ากังวลนัก แต่หากมันเกิดขึ้นบ่อย ๆ และร่วมกับมีอาการอาเจียนและน้ำหนักลดแล้ว ก็ควรเข้าพบแพทย์เพื่อตรวจหาสาเหตุ
- น้ำหนักลดโดยไม่ได้พยายาม ผู้หญิงส่วนมากอยากให้น้ำหนักลดหายไปเหมือนระเหยไปในอากาศ แต่การสูญเสียน้ำหนักเป็น 10 ปอนด์หรือมากกว่าโดยไม่ได้มีการปรับเปลี่ยนอาหารหรือออกกำลังกายเลยนั้น อาจเป็นสัญญาณของปัญหาได้
- อาการแสบร้อนในทรวงอก การกินอาหารมากเกินไป, ดื่มแอลกอฮอล์มากเกินไป และความเครียด (บางครั้งก็สามอย่างรวมกัน) เป็นต้นเหตุของอาการแสบร้อนในทรวงอกได้ ลองเปลี่ยนพฤติกรรมการกินสัก 1-2 สัปดาห์เพื่อลองดูว่าอาการจะดีขึ้นหรือไม่แต่หากมันไม่ดีขึ้นเลย ควรปรึกษาแพทย์
- การเปลี่ยนแปลงภายในช่องปาก ถ้าคุณสูบบุหรี่ ให้สังเกตฝ้าสีขาวหรือสีแดงอ่อนภายในปาก หรือบนริมฝีปาก ทั้งสองชนิดเป็นสัญญาณของโรคมะเร็งช่องปาก คุณควรปรึกษาแพทย์หรือทันตแพทย์เพื่อเข้ารับการทดสอบและรักษาต่อไป
- มีไข้ ไข้ที่ไม่ยอมหายและหาสาเหตุไม่ได้อาจหมายถึงโรคมะเร็งเม็ดเลือดขาวหรือมะเร็งเลือดชนิดอื่น ๆ แพทย์ของคุณจะตรวจประวัติทางการแพทย์และทำการทดสอบร่างกายเพื่อหาสาเหตุต่อไป
- ความเมื่อยล้า ผู้หญิงจำนวนมากรู้สึกเมื่อยล้าเพราะชีวิตมีแต่เรื่องวุ่นวาย แต่หากเป็นความเมื่อยล้าที่ไม่ยอมหายไป นั่นเป็นเรื่องที่ไม่ปกติ ควรปรึกษาแพทย์เกี่ยวกับความเมื่อยล้าที่เกิดขึ้น
- อาการไอ การไอส่วนใหญ่แล้วจะหายไปใน 3-4 สัปดาห์ อย่าละเลยหากอาการไอกินเวลานานกว่านั้น ยิ่งโดยเฉพาะถ้าคุณสูบบุหรี่หรือหายใจไม่ออก หากไอออกมาเป็นเลือดให้รีบไปพบแพทย์ การไอแบบนี้ส่วนมากจะเป็นอาการของมะเร็งปอด
- อาการปวด โรคมะเร็งไม่ก่อให้เกิดอาการปวด แต่อาการปวดที่ต่อเนื่องจะเป็นสัญญาณของมะเร็งกระดูก, มะเร็งสมอง หรือมะเร็งชนิดอื่น ๆ ได้ ควรปรึกษาแพทย์เกี่ยวกับอาการปวดที่หาสาเหตุไม่ได้นี้ ยิ่งโดยเฉพาะหากมีอาการมาเป็นเดือนหรือนานกว่านั้น
- ปวดท้องและซึมเศร้า มันเป็นอาการที่หาได้ยาก แต่หากคุณปวดท้องร่วมกับมีอาการซึมเศร้าด้วยก็อาจเป็นสัญญาณของมะเร็งตับอ่อนได้ แล้วคุณควรกังวลหรือไม่ ก็ขึ้นอยู่กับว่าในครอบครัวคุณเคยมีคนเป็นมะเร็งตับอ่อนหรือไม่
ที่มา : http://pentahugs.com/15
Follow Our Social Network