ทำไมยังเป็น “ไข้หวัดใหญ่” ทั้งที่ฉีดวัคซีนแล้ว
บทความสุขภาพ
พ่อแม่มือใหม่หลายคนมักคิดว่า โรคไข้หวัดใหญ่ จะแพร่ระบาดเฉพาะฤดูฝนเท่านั้น แต่แท้จริงแล้วโรคไข้หวัดใหญ่มีการแพร่ระบาดได้ตลอดทั้งปี เกิดได้กับทุกเพศทุกวัย โดยไม่จำกัดแค่ในเด็กเล็กหรือคนที่มีสุขภาพอ่อนแอเท่านั้น แม้แต่ผู้ที่มีสุขภาพแข็งแรงก็สามารถติดเชื้อไวรัสไข้หวัดใหญ่และเป็นพาหะแพร่กระจายเชื้อให้แก่ผู้คนรอบข้างได้
เชื้อไข้หวัดใหญ่ เป็นอย่างไร?
โรคไข้หวัดใหญ่สาเหตุคือ ไวรัสที่มีชื่อว่า “อินฟลูเอนซ่าไวรัส (Influenza virus)” ที่อยู่ในน้ำมูก น้ำลาย หรือเสมหะของผู้ป่วย และติดต่อผ่านการไอ จาม หรือหายใจรดกัน เมื่อติดเชื้อในทางเดินหายใจส่วนบนแล้ว จะทำให้มีไข้สูง ไอ น้ำมูก คัดจมูก จาม มีอาการปวดเมื่อยตามตัว อ่อนเพลียคล้ายกับไข้หวัด แต่อาการจะมากกว่าในเด็กเล็กน้อยกว่า 2 ขวบ ผู้สูงอายุ และผู้ที่มีโรคประจำตัวเรื้อรังอาจเกิดอาการที่รุนแรง และเกิดภาวะแทรกซ้อนได้ เช่น ปอดอักเสบและสมองอักเสบ นอกจากนั้นยังทำให้โรคประจำตัวมีอาการกำเริบจากการติดเชื้อ เช่น โรคหัวใจ โรคเบาหวาน โรคเกี่ยวกับตับและไต
วัคซีนไข้หวัดใหญ่ 4 สายพันธุ์ มีอะไรบ้าง
วัคซีนไข้หวัดใหญ่จะมีส่วนประของไวรัส Influenza Virus 4 สายพันธุ์ คือ
- สายพันธุ์ A แบ่งย่อย 2 สายพันธุ์ คือ H1N1, H3N2
- สายพันธุ์ B แบ่งย่อย 2 สายพันธุ์ คือ Yamagata, Victoria
วัคซีนป้องกันไข้หวัดใหญ่ 4 สายพันธุ์มีประโยชน์อย่างไร
- สามารถป้องกันการติดเชื้อไวรัสไข้หวัดใหญ่ชนิด B ครอบคลุมสายพันธุ์มากขึ้นกว่าเดิม
- ลดอัตราการระบาดของเชื้อไข้หวัดใหญ่
- ลดปัญหาจากภาวะแทรกซ้อนที่เกิดจากการติดเชื้อไข้หวัดใหญ่ โดยเฉพาะในเด็กเล็กและผู้ป่วยเรื้อรัง
- ลดการใช้ยาปฎิชีวนะ จากภาวะแทรกซ้อนในการติดเชื้อแบคทีเรีย
- ลดค่าใช้จ่ายในการรักษา
- ลดการขาดงานหรือขาดเรียน
- ลดอัตราการเข้ารับการรักษาตัวในโรงพยาบาล
- ลดอัตราการเสียชีวิตจากโรคไข้หวัดใหญ่
ไวรัสไข้หวัดใหญ่จะมีการเปลี่ยนแปลงสายพันธุ์อยู่เรื่อย ๆ การผลิตวัคซีนแต่ละปีจึงต้องมีการเปลี่ยนแปลงสายพันธุ์ตามเชื้อไวรัส เพื่อให้ครอบคลุมเชื้อไวรัสที่เป็นสาเหตุและร่างกายจะสร้างภูมิคุ้มกันโรคประมาณ 1 ปี จึงจำเป็นต้องฉีดวัคซีนไข้หวัดใหญ่กระตุ้นภูมิคุ้มกันทุกปี เพื่อจะได้ป้องกันได้อย่างต่อเนื่องและให้ร่างกายได้สร้างภูมิคุ้มกันและปรับให้เหมาะสมกับเชื้อไวรัสในแต่ละปีด้วยเช่นกัน
ติดตาม โซเชียลเน็ตเวิร์ก ของเรา